แน่นอนว่าประเทศไทยขึ้นชื่อเรื่องงานเกษตรกรรมเป็นอย่างดีอยู่แล้ว รูปแบบงานเกษตรเหมาะกับ รถกระบะ เป็นอย่างมาก ด้วยตัวรถที่สร้างมาอย่างแข็งแรงขับได้แม้ทางจะไม่เรียบ และยังขนของได้อีกด้วย นอกจากนั้นยังสามารถใช้ขนย้ายสิ่งต่างๆ ได้อีกด้วย เห็นได้ชัดจากบริษัทขนส่งต่างๆ ก็เลือกใช้รถยนต์กระบะกัน ด้วยประโยชน์ที่มีมากมายจึงเป็นตัวเลือกต้นๆ สำหรับคนทำมาหากิน และวันนี้ auto-car จะมาแนะนำอะไรให้กับทุกคนบ้างเข้าไปรับชมกันได้เลย
Table of Contents
ข้อดีของ รถกระบะ คืออะไร
พูดได้ว่ารถกระบะเป็นรถเป็นขวัญใจ และเป็นที่นิยมของคนไทยมาอย่างยาวนาน หลายคนมีข้อสงสัยว่าเพราะอะไร วันนี้เราพามาดู 7 ข้อดีของรถกระบะกันว่าเพราะอะไร ถึงเป็นที่นิยมขนาดนี้
1. มีตัวเลือกหลากหลาย
ไม่ว่าจะเป็นทั้งดีไซน์ ยี่ห้อ และสเปกของตัวเครื่องมีหลายอย่างให้ผู้คนได้เลือกให้เหมาะกับตัวเอง
2. ราคาค่อนข้างถูก
ราคาไม่ได้ต่างจากรถตลาดมาก แต่สามารถใช้งานได้มากกว่า
3. เหมาะกับสภาพถนนเมืองไทย
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าถนนบ้านเรานั้นค่อนข้างแย่ บางพื้นที่มีหลุมบ่อค่อนข้างมาก ด้วยความที่กระบะสร้างมาเพื่อเดินทางในที่แบบนี้อยู่แล้วจึงได้เปรียบรถเก๋งที่สมรรถภาพต่ำกว่า
4. น้ำท่วมก็สามารถวิ่งได้
เพราะบ้านเรานั้นมีน้ำท่วมค่อนข้างบ่อย หากใช้รถที่โหลดต่ำและวิ่งบนน้ำท่วมจะทำให้รถดับได้ แต่จะไม่เป็นปัญหาต่อกระบะที่มีรูปร่างรถค่อนข้างสูง
5. เป็นรถที่ประหยัดน้ำมัน
พูดกันแบบตรงๆ เลย ว่ากระบะสร้างมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานในการขนย้าย หรือเรียกง่ายๆ คือใช้ในการทำงาน จึงเหมาะกับคนที่มีของเยอะและต้องย้ายอยู่เป็นประจำ จึงออกแบบมาให้ใช้งานได้ทนทานและประหยัดน้ำมัน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องดีเซล
6. แต่งสวย วัยรุ่นชอบ
ด้วยราคาที่ไม่หนักมากจึงมีวัยรุ่นให้ความสนใจเป็นอย่างมาก และ รถกระบะแต่ง สามารถดึงดูดสาวๆ ได้เป็นอย่างดี จึงเป็นที่นิยมมากในบ้านเรา
7. มีระบบความปลอดภัยสูง
่เป็นเรื่องของมวลและน้ำหนักของรถ มีขนาดใหญ่ มีการทรงตัวที่ดี เมื่อเทียบกับรถเก๋งที่มีขนาดเครื่องเพียง 1.5 ลิตรเท่านั้น
แนะนำรถกระบะ ที่ได้รับความนิยมสูง
รถยนต์กระบะเป็นหนึ่งในยานยนต์ที่มีพื้นที่ไว้สำหรับบรรทุกของ จะมีขนาดกว้างกว่ายานยนต์ชนิดอื่นๆ แต่ต้องแลกกับพื้นที่โดยสารที่จะเล็กลง การจะเลือกซื้อรถยนต์กระบะนั้นต้องคำนึงถึงปัจจัยในหลายๆ อย่างเพื่อประกอบการตัดสินใจ ซึ่งในแต่ละยี่ห้อล้วนมีลักษณะพิเศษที่แตกต่างกัน ดังนั้นควรจะเลือกรถที่เหมาะกับความต้องการของตัวเอง
และหากตอนนี้ยังไม่สามารถเลือกได้ว่าจะเลือกรุ่นไหนดี วันนี้เราได้เตรียมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการเลือกของคุณพร้อมกับคำแนะนำที่ดี เพื่อประกอบในการเลือก กับ 5 อันดับรถยนต์กระบะหลากหลายรุ่น ของแบรนด์ที่มีชื่อเสียง แน่นอนว่าจะส่งผลดีต่อผู้ที่กำลังมองหารถยนต์กระบะอย่างแน่นอน
1. D-MAX Spark 1.9 Ddi B
เปิดตัวกับรถรุ่น D-MAX Spark 1.9 Ddi B มาพร้อมกับราคา 554,000 บาท มีกระบะใหญ่กว่ารุ่นเดิม ออกตัวแรง มาพร้อมกับเบรก ABS กระบะยอดนิยมของเกษตรกรและพ่อค้าแม่ค้าทั้งหลาย บรรทุกของได้ปริมาณที่เยอะขึ้น ใช้เครื่องยนต์ที่มีสมรรถนะที่สูงไร้ปัญหาอาการหน่วงตอนออกตัว ทำให้สามารถแซงได้ง่ายขึ้น ภายในรถกว้างปรับเบาะนั่งได้ทำให้ลดความเมื่อยล้าในขณะขับขี่ ทั้งนี้ยังมาพร้อมกับระบบความปลอดภัย ป้องกันล้อล็อก กระจายแรงเบรก มาพร้อมกับระบบเสริมแรงเบรกและถุงลมนิรภัยคู่หน้าช่วยลดการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุได้
2. Hilux Revo Double Cab Z-Edition 2.4 MID AT
สุดยอดรถตลาดที่มีผู้คนใช้งานเป็นจำนวนมากกับรถ Hilux Revo Double Cab Z-Edition 2.4 MID AT ราคารถกระบะ 4 ประตู สุดคุ้มที่ 803,000 บาท มากับโครงรถแข็งแรง บรรทุกของได้มาก ภายในมีเครื่องเล่นระบบบลูทูธที่ใช้ได้ทั้งระบบ iOS และ Android สำหรับแบรนด์ Toyota เป็นบริษัทรถญี่ปุ่นที่มีการผลิตรถออกมาหลากหลายประเภทและเป็นที่นิยมอย่างมาก ด้วยความน่าเชื่อถือและประสิทธิภาพที่ทำออกมาได้ดี จึงทำให้รถกระบะก็มียอดขายที่สูงมากเช่นเดียวกัน สำหรับรุ่น Hilux Revo ภายนอกออกแบบให้มีลักษณะที่แข็งแรง คงทนและทรงพลังด้วยกระจังหน้าสีดำ และภายในประกอบไปด้วย จอภาพทัชกรีนขนาด 8 นิ้ว เครื่องเล่นที่สามารถเชื่อมต่อกับระบบบลูทูธได้พร้อมปลั๊กไฟ 12 โวลต์ 2 ตำแหน่ง
3. Ranger StandardCab 2.2L XL 4X4 6MT
กระจกมองหลังแบบลดแสงสะท้อน ขับขี่ปลอดภัยในยามค่ำคืน กับรถรุ่น Ranger StandardCab 2.2L XL 4X4 6MT ที่มีราคาอยู่ที่ 652,000 บาท กระบะตอนเดียวที่ออกแบบกระจังหน้าให้มีสีดำ มาพร้อมกับไฟหน้าแบบมัลติรีเฟลกเตอร์ ภายในมีกระจกมองหลังแบบลดแสงสะท้อน ช่วยให้ขับรถในช่วงกลางคืนได้ดียิ่งขึ้น ส่วนระบบการขับเคลื่อนเป็นแบบขับเคลื่อน 4 ล้อและระบบเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องบรรทุกของที่มีน้ำหนักมากๆ เช่น ผลผลิตทางการเกษตร อุปกรณ์เครื่องจักร เป็นต้น อีกทั้งระบบการขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อยังช่วยให้ควบคุมทิศทางและเกาะพื้นผิวถนนได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วย
4. Nissan Navara DC CALIBRE E 7AT
ระบบเกียร์ออโต้ 7 จังหวะ เพิ่มเติมฝาท้ายกระบะแบบผ่อนแรงกับรถ Nissan Navara DC CALIBRE E 7AT รถกระบะเกียร์ออโต้ 7 จังหวะมีการออกแบบภายนอกให้ประกอบไปด้วย กล้องด้านหลัง กล้องมองรอบคัน ฝาท้ายกระบะแบบผ่อนแรงที่ช่วยให้ผู้หญิงสามารถเปิดได้สะดวกไม่ต้องออกแรงในการยกมากนัก ส่วนกระจกมองข้างเป็นแบบตัดแสงอัตโนมัติในเวลากลางคืน จึงมองได้สบายตายิ่งขึ้นเมื่อขับรถในตอนกลางคืน นอกจากนี้ยังมีระบบความปลอดภัยที่ติดตั้งมาให้อย่างจุใจเช่น ระบบช่วยในการขับบนทางลาดชัน ป้องกันล้อหมุนฟรีขณะออกตัว ระบบเบรก ABS ราคาอยู่ที่ 899,000 บาท
5. Mitsubishi Triton Single Cab
ขับได้อย่างนุ่มนวล มาพร้อมระบบกันสะเทือนและโช๊คอัพขนาดใหญ่กับรถยนต์ Mitsubishi Triton Single Cab รุ่นนี้เป็นรุ่นยอดนิยมของ Mitsubishi ที่มียอดขายสูงมาก เหมาะสำหรับการใช้งานแบบลุยได้ทุกสภาพเส้นทาง เนื่องจากมีระบบกันสะเทือนหน้าอิสระแบบปีกนก 2 ชั้นและระบบกันสะเทือนหลังพร้อมโช๊คอัพไขว้ขนาดใหญ่ ทำให้การขับขี่มีความนุ่มนวลและยึดเกาะถนนได้เป็นอย่างดี เปรียบเทียบกับราคา 659,000 บาท ถือว่าคุ้มมากๆ นอกจากระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันแล้ว ยังมีการติดตั้งระบบความปลอดภัยเชิงแก้ไขอีกด้วย โดยใช้คานเหล็กกันกระแทกบริเวณด้านข้างประตูทำหน้าที่เสริมความแข็งแรงและลดแรงกระแทกมาสู่ห้องโดยสารกรณีที่เกิดการชนจากด้านข้าง
วิธีการเลือกรถยนต์กระบะ
การเลือกรถกระบะจำเป็นต้องพิจารณาหลายๆ ด้านเพื่อให้ได้รุ่นที่เหมาะสมมากที่สุด โดยพิจารณาจากประเภทของรถกระบะ และหากเป็นคนที่มีทุนน้อย และมองหา รถกระบะราคาถูก หรือ รถกระบะมือสอง ก็ต้องศึกษาให้มาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคุณสมบัติเครื่องยนต์ พื้นที่ห้องโดยสารและระบบความปลอดภัยในการขับขี่ นอกจากนี้ ยังมีเรื่องนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
อาชีพไหนบ้าง ควรใช้รถยนต์กระบะ
ช่วงเศรษฐกิจแย่ๆ แบบนี้ส่งผลให้ผู้ประกอบการหรือบริษัทฯ หลายแห่งต้องปิดตัวลง เนื่องจากได้รับผลกระทบเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างหนัก ทำให้ลูกจ้างตกงานกันมากมาย บางคนมีภาระหนี้สินมากมายที่ต้องรับผิดชอบ ทั้งครอบครัว รวมทั้งต้องผ่อนบ้าน ผ่อนรถ เป็นต้น ใครที่มีรถกระบะอยู่แล้วอยากเป็นนายตัวเอง ชอบการขับรถไปสถานที่ต่างๆ ใหม่ๆ วันนี้มี 5 อาชีพเพื่อช่วยสร้างรายได้ให้กับตัวเองและครอบครัว สำหรับผู้ที่ขับรถกระบะ หรือแม้กระทั่งคนที่จะออกรถกระบะ แต่ยังไม่รู้จุดประสงค์ว่าสามารถไปต่อยอดในอาชีพอะไรได้บ้าง
1. รถรับจ้างขน ผัก ผลไม้
การทำเป็นรถกระบะคอก เพื่อรับจ้างขนผลไม้ ผัก จากตลาดใหญ่ๆ มาส่งให้ตามตลาด นัดเล็กๆ หรือแม้กระทั่งขนต้นไม้ไปขาย
2. รถโลจิสติกส์ หรือ รถรับ-ส่งของ
รถโลจิสติกส์ก็ไม่แพ้กัน โดยเฉพาะในหมู่วัยรุ่นที่ขับรถกระบะมาดัดแปลงเป็นรถตู้ทึบ เพื่อสมัครมาเป็นรถรับ-ส่งพัสดุ ตามบริษัทฯ ขนส่ง อย่างเช่น Kerry, J&T, Flash เป็นต้น
3. รถรับซื้อของเก่า
จะเห็นได้ว่าทั้งรถกระบะคอก รถกระบะธรรมดา บางคนยึดอาชีพรับซื้อพวกเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ตามบ้าน ซึ่งหากเราเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ จากประสบการณ์ที่สะสมมาทั้งหมด ก็สามารถนำมาต่อยอดเปิดพื้นที่รับซื้อของเก่าได้เลย
4. รถขายกับข้าว รถขายกับข้าว
รถกระบะคอกที่แขวนเต็มไปด้วยถุงผัก เนื้อหมูต่างๆ ถึงแม้จะต้องมีลงทุนซื้อของ แต่กำไรก็ได้ไม่น้อยเหมือนกัน ยิ่งช่วงสภาวะเชื้อไวรัสโควิด-19แพร่ระบาดขนาดนี้ทำให้เหล่าบรรดาพ่อบ้าน แม่บ้าน ต้องอาศัยซื้อวัตถุดิบรถขายกับข้าว นั่นอาจจะทำให้คุณมีรายได้เข้ามาเยอะอย่างแน่นอน
5. เกษตรกร
หากมีที่พอจะปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ กระบะเหมาะมากสำหรับการทำเกษตร ด้วยรูปแบบรถที่สร้างมาเพื่อสิ่งนี้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะขนอุปกรณ์เข้ามาทำ หรือเป็นการขนวัตถุดิบออกไปขายก็ย่อมสะดวกสบายอย่างแน่นอน